กัญชง(Hemp) เป็นพืชที่นิยมนำมาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เช่น เครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน รวมไปถึงนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศได้ แล้วยังมีประโยชน์การนำไปสกัดเป็นยา ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง โลชั่นบำรุงผิว กระทั่งน้ำมันหอมระเหย ใช้นวดเพื่อบรรเทา ช่วยซ่อมแซมผิว และเสริมสร้างผิวให้สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน ลดการอักเสบ และป้องกันการเกิดสิว เป็นต้น

คุณสมบัติพิเศษของเส้นใยจากเปลือกกัญชง

            เส้นใยกัญชงมีความทนทานกว่าผ้าฝ้าย สามารถดูดซับความชื้นได้ดีกว่าไนลอน และให้ความอบอุ่นยิ่งกว่าลินิน จึงเหมาะนำมาใช้ทำเป็นเครื่องนุ่งห่มเป็นอย่างมาก ช่วงอากาศร้อนจะให้ความเย็นสบาย ในหน้าหนาวจะให้ความอบอุ่น เพราะช่วยดูดความร้อน ดูดกลิ่น บางเบาสวมใส่ได้สบาย ไม่ระคายผิวมีความยืดหยุ่นดี ทนทานต่อการซัก ไม่มีกลิ่นอับชื้นและไม่ขึ้นราแม้อยู่ในที่อับชื้น อาหารสดที่ห่อด้วยผ้าทอจากเส้นใยกัญชงจะคงความสดและอยู่ได้นานมากกว่าเป็นสองเท่า
            ผ้าที่ทอจากเส้นใยกัญชง แม้จะเป็นการทอด้วยเส้นใยกัญชงเพียงครึ่งหนึ่งก็สามารถช่วยป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 95% (ถ้าทอทั้งผืนจะป้องกันได้ 100%) ในขณะที่เสื้อผ้าที่ทอด้วยผ้าประเภทอื่นจะป้องกันรังสี UV ได้เพียง 30-50% เท่านั้น และเมื่อเส้นใยกัญชงที่แห้งสนิทจะมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้า ซึ่งมากกว่าเส้นใยฝ้าย ส่วนการทดสอบผ้าที่ทอด้วยเส้นใยกัญชงในสภาพความร้อนสูงถึง 370 องศาเซลเซียส ก็พบว่าไม่ได้ทำให้คุณสมบัติด้านสีเปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด
            ความแข็งแกร่งของเส้นใยกัญชง มีข้อมูลการผลิตและทดสอบเส้นใยไฟเบอร์ที่ทำจากเส้นใยกัญชงเทียบกับใยไฟเบอร์กลาส ที่ผลการทดสอบปรากฎว่าเส้นใยกัญชงมีความแข็งแรงกว่าเส้นใยไฟเบอร์กลาส 25-30% เทียบต่อน้ำหนัก ทำให้ลดการใช้พลังงานได้ดี และที่สำคัญมีคุณสมบัติดูดกลืนเสียงได้ดีด้วย ส่วนในด้านผลการทดสอบ Tensile Strength หรือการทดสอบแรงดึง แรงกดวัสดุ พบว่ามีความแข็งแรงกว่าหลายเปอร์เซ็นต์ ที่เห็นได้ชัดเจนคือ Bending Strength หรือการทดสอบแรงดัดงอ มากกว่าไฟเบอร์กลาสถึง 30-35%
             ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ มีการผลิตเครื่องบินเล็กจากเส้นใยกัญชงเครื่องแรกของโลกเมื่อปี 2557 โดย บริษัท Hempearth จากนั้นได้พัฒนา โดยที่นั่งและหมอนไปจนถึงผนังเครื่องบิน ทำจากกัญชงทั้งหมด และเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันกัญชง จึงกลายเป็นการผลิตเครื่องบินที่ปราศจากสารมลพิษ

คุณสมบัติพิเศษของแกนกัญชง

            แกนกัญชง สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบและส่วนประกอบในการผลิตวัสดุก่อสร้าง เฮมพ์กรีต (Hempcrete) มีค่ากำลังต้านทานแรงอัดเพิ่มขึ้น 44% จากคอนกรีตควบคุม เฮมพ์บล็อก (Hemp blocks) มีความต้านแรงอัดได้สูงกว่าที่ มอก .58-2530 (>2.5 MPS) และมีน้ำหนักที่เบากว่าบล็อกปกติ มากถึง 40%

คุณสมบัติพิเศษของใบและใบยอด

            ใบและใบยอด สามารถนำไปสกัดสารสำคัญชนิดต่างๆ เช่น สาร Cannabidiol (CBD) และสารกลุ่ม Cannabinoids มีอีกหลายชนิด ได้แก่สาร Cannabichromene (CBC) มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดอาการปวด และมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลชีพและเชื้อรา สาร Cannabinol (CBN) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สารให้กลิ่นเทอร์พีน (Terpene) เป็นสารประกอบอะโรมาติก (Aromatic) เป็นน้ำมันหอมระเหยสกัดที่มีในกัญชง เป็นสารที่ทำให้มีกลิ่นเฉพาะตัว สารให้สี ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) อีกหลากหลายชนิด สามารถนำมาผสมในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะอาหาร ซึ่งมีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ประโยชน์ทางยา ป้องกันโรค รักษาโรค และชะลอความชรา มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) 

             สารสำคัญในกัญชง โดยเฉพาะในกลุ่ม Cannabinoids มีหลากหลายชนิด เช่น สาร Cannabidiol (CBD) และสาร Tetrahydrocannabinol (THC) ในการนำเอากัญชงไปใช้ประโยชน์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องตรวจวัดปริมาณสารสำคัญโดยพาะสาร THC เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นโทษและทำตามข้อกฎหมายที่กำหนด

การแยกสาร cannabinoid ด้วย Chromolith® HPLC columns

Chromolith HPLC Analysis Results

System Suitability Results: Blank and Standard Solution

Figure 1. Chromatograms for blank (top) and standard solution (bottom)

System Suitability: Peak Identification Solutions

Table1. Peak resolution and system reproducibility.

Figure 1. Chromatograms for blank (top) and standard solution (bottom).

สนใจผลิตภัณฑ์ >>152021.0001 Chromolith® HighResolution RP-18e 50-2 mm HPLC Column
                        52322.0001 Chromolith® HighResolution RP-18e 100-2 mm HPLC Column